สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 21
ผมว่าเรื่องสินสอด เป็นวัฒนธรรมที่แสดงออกอะไรไม่ได้เลยครับนอกจากโชว์เงิน มันน่าจะหมดไปได้แล้ว คนที่บอกว่าเพื่อแสดงถึงความทุ่มเทความพยายาม ผมว่ามันก็วัดอะไรไม่ได้อีก ทุ่มเทวันนี้รักมาก ปานจะเลียก้นกันได้ วันหน้าเหม็นขี้หน้ากันมา ก้ไม่ต่างกัน ผมว่าเก็บตังไว้สร้างครอบครัวเถอะคนแก่หัวโบราณ ชอบให้เอาเงินมาวาง ถ้าวางแล้วคืนน่าชื่นชม เพราะเอาแค่นั้นแหละเอากลับไปตั้งตัวกัน บางบ้านไม่มีคืน ยึดเลย ไม่รู้ว่าค่านิยมเอาเงินซื้อลูกสาวนี่ผุดมาได้ยังไง แค่คิดว่าวัดค่าลูกสาวเป็นจำนวนเงินก็แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่ล้าหลังแล้ว
pondsomby ถูกใจ, กบหลบเสา ถูกใจ, nap62 ถูกใจ, invisibleoff ถูกใจ, richyblue ถูกใจ, EL_KMITL ถูกใจ, กาแฟป๋องเขียว ถูกใจ, Ce_bkk ถูกใจ, !+ ส า ม แ ป ด ส า ม +! ถูกใจ, wellcare55 ถูกใจรวมถึงอีก 13 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 39
ผมมองว่าวัฒนธรรมนี้ปัจจุบันเป็นเรื่องไร้สาระนะ เมื่อก่อนมันจำเป็นเพราะผู้ชายต้องเลี้ยงดูผู้หญิง พ่อแม่ผู้หญิงเค้าก็ต้องให้แน่ใจว่าเลี้ยงดูลูกเค้าได้จึงต้องให้เอาเงินมาวางแล้วค่อยยกลูกให้
แต่เดียวนี้ไม่ใช่แล้ว ผู้หญิงหาเงินเลี้ยงตัวเองได้แล้ว แล้วผู้หญิงก็ไม่รอให้พอแม่ยกตัวเองให้ใครแล้ว เค้าไปอยู่กินกับแฟนเค้าตั้งนานแล้ว ได้เสียเป็นผัวเมียกันตั้งแต่ยังไม่ได้เก็บสินสอดซักบาทนั่นแหละ แต่จะด้วยหน้าใหญ่หรืออะไรไม่ทราบ จะแต่งกันได้ต้องมีสินสอด แถมแข่งกันจะเอาน้อยหน้าชาวบ้านไม่ได้ ทั้งๆที่จริงๆที่อยู่ๆมันก็ไม่ได้ต่างจากแต่งไปแล้วเท่าไหร่เลย ดังนั้นผู้หญิงก็รอไปเถอะครับเพราะผู้ชายก็เก็บเงินกันไม่ครบซักที รอๆไปสุดท้ายก็เห็นผู้หญิงนั่นแหละมาพร่ำเพ้อว่าเมื่อไหร่จะได้แต่งงานซักที ส่วนผู้ชายหน่ะหรือ ก็อยู่กินกันครบแล้วขาดแต่จ่ายตังใยต้องรีบจ่าย เดียวรอผู้หญิงอายุเยอะๆพ่อตาจัดโปรโมชั่นลดราคาค่อยแต่ง ค่อยเก็บตังอย่างใจเย็นสุดท้ายพูดตรงๆ เห็นรอไม่ไหวเลิกกันไปหลายคู่ นี่ถ้าไม่ต้องเก็บค่าสินสอด คงได้แต่งไปนานแล้วว
ตอบจขกท. ส่วนตัวนะครับ ผมเองรับราชการครับ เงินเดือนแน่นอนว่าไม่เยอะ และก่อนคบแฟนนั้น ผมไปซื้อบ้านพอดี เลยมีภาระผ่อนบ้านอีก ว่ากันตรงๆ ไม่มีเหลือเก็บเป็นเงินซักบาทหรอกครับ และผมต้องใช้ทุน ไม่สามารถออกไปหางานอื่นที่รายได้ดีกว่านี้ได้ในเวลาอันสั้นแน่ๆ ผมก็บอกแฟนตรงๆว่าถ้าจะเอาเป็นเงินเป็นก้อนๆ รออีกนาน ซึ่งพอคุยกับพ่อตาแม่ยายเค้าก็เข้าใจและอยากให้แต่งเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่าที่จะต้องรอเก็บตังไปเรื่อยๆ แต่ต้องไปมาหาสู่กันให้ชาวบ้านนินทาเล่น สุดท้ายก็จบลงที่เอาโฉนดตั้ง เอาทอง(ซื้อสะสมไว้สมัยเรียนอยู่) 8 บาท ให้ฝ่ายเจ้าสาวเลย เงินสดก็เอามาวางพอเป็นพิธีครับ (ผมยืมแม่มาวาง ทางโน้นเค้าคืนหมด)
สุดท้ายคิดดูเล่นนะ เห็นคห.แรกๆใส่กันเป็นล้าน ผมว่าส่วนตัวนะน่าสงสารที่เด็กเริ่มตั้งตัวต้องมาเก็บเงินเป็นล้านเพียงเพราะต้องมาแต่งเมีย ทั้งๆที่ล้านแรกนี่สำคัญกับชีวิตมาก ถ้าเอาไปซื้อบ้าน เอาไปลงทุน มันจะทำให้ชีวิตเริ่มต้นตั้งตัวได้เร็วกว่าเดิม(พูดถึงคนทั่วๆไปไม่ได้มีทรัพย์สินแต่เดิมมานะครับ) เห็นเพื่อนหลายคนตั้งหน้าตั้งตาเก็บตั้งแทบตาย หลังงานแต่ง คนได้คืนดีไป ไอพวกไม่ได้คืน หรือจัดงานเวอร์จนขาดทุนงานแต่งเยอะๆ เหมือนต้องมานั่งเริ่มชีวิตใหม่อีกรอบ ไอคนที่ต้องลำบากด้วยก็ไม่ใช่ใครหรอกครับลูกสาวพ่อตาเคี่ยวๆทั้งนั้น นี่ถ้าไม่ต้องเสียอาจจะมีบ้าน มีกิจการไปแล้ว
แต่เดียวนี้ไม่ใช่แล้ว ผู้หญิงหาเงินเลี้ยงตัวเองได้แล้ว แล้วผู้หญิงก็ไม่รอให้พอแม่ยกตัวเองให้ใครแล้ว เค้าไปอยู่กินกับแฟนเค้าตั้งนานแล้ว ได้เสียเป็นผัวเมียกันตั้งแต่ยังไม่ได้เก็บสินสอดซักบาทนั่นแหละ แต่จะด้วยหน้าใหญ่หรืออะไรไม่ทราบ จะแต่งกันได้ต้องมีสินสอด แถมแข่งกันจะเอาน้อยหน้าชาวบ้านไม่ได้ ทั้งๆที่จริงๆที่อยู่ๆมันก็ไม่ได้ต่างจากแต่งไปแล้วเท่าไหร่เลย ดังนั้นผู้หญิงก็รอไปเถอะครับเพราะผู้ชายก็เก็บเงินกันไม่ครบซักที รอๆไปสุดท้ายก็เห็นผู้หญิงนั่นแหละมาพร่ำเพ้อว่าเมื่อไหร่จะได้แต่งงานซักที ส่วนผู้ชายหน่ะหรือ ก็อยู่กินกันครบแล้วขาดแต่จ่ายตังใยต้องรีบจ่าย เดียวรอผู้หญิงอายุเยอะๆพ่อตาจัดโปรโมชั่นลดราคาค่อยแต่ง ค่อยเก็บตังอย่างใจเย็นสุดท้ายพูดตรงๆ เห็นรอไม่ไหวเลิกกันไปหลายคู่ นี่ถ้าไม่ต้องเก็บค่าสินสอด คงได้แต่งไปนานแล้วว
ตอบจขกท. ส่วนตัวนะครับ ผมเองรับราชการครับ เงินเดือนแน่นอนว่าไม่เยอะ และก่อนคบแฟนนั้น ผมไปซื้อบ้านพอดี เลยมีภาระผ่อนบ้านอีก ว่ากันตรงๆ ไม่มีเหลือเก็บเป็นเงินซักบาทหรอกครับ และผมต้องใช้ทุน ไม่สามารถออกไปหางานอื่นที่รายได้ดีกว่านี้ได้ในเวลาอันสั้นแน่ๆ ผมก็บอกแฟนตรงๆว่าถ้าจะเอาเป็นเงินเป็นก้อนๆ รออีกนาน ซึ่งพอคุยกับพ่อตาแม่ยายเค้าก็เข้าใจและอยากให้แต่งเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่าที่จะต้องรอเก็บตังไปเรื่อยๆ แต่ต้องไปมาหาสู่กันให้ชาวบ้านนินทาเล่น สุดท้ายก็จบลงที่เอาโฉนดตั้ง เอาทอง(ซื้อสะสมไว้สมัยเรียนอยู่) 8 บาท ให้ฝ่ายเจ้าสาวเลย เงินสดก็เอามาวางพอเป็นพิธีครับ (ผมยืมแม่มาวาง ทางโน้นเค้าคืนหมด)
สุดท้ายคิดดูเล่นนะ เห็นคห.แรกๆใส่กันเป็นล้าน ผมว่าส่วนตัวนะน่าสงสารที่เด็กเริ่มตั้งตัวต้องมาเก็บเงินเป็นล้านเพียงเพราะต้องมาแต่งเมีย ทั้งๆที่ล้านแรกนี่สำคัญกับชีวิตมาก ถ้าเอาไปซื้อบ้าน เอาไปลงทุน มันจะทำให้ชีวิตเริ่มต้นตั้งตัวได้เร็วกว่าเดิม(พูดถึงคนทั่วๆไปไม่ได้มีทรัพย์สินแต่เดิมมานะครับ) เห็นเพื่อนหลายคนตั้งหน้าตั้งตาเก็บตั้งแทบตาย หลังงานแต่ง คนได้คืนดีไป ไอพวกไม่ได้คืน หรือจัดงานเวอร์จนขาดทุนงานแต่งเยอะๆ เหมือนต้องมานั่งเริ่มชีวิตใหม่อีกรอบ ไอคนที่ต้องลำบากด้วยก็ไม่ใช่ใครหรอกครับลูกสาวพ่อตาเคี่ยวๆทั้งนั้น นี่ถ้าไม่ต้องเสียอาจจะมีบ้าน มีกิจการไปแล้ว
ธิดาบักเขียบ ถูกใจ, pondsomby ถูกใจ, nap62 ถูกใจ, invisibleoff ถูกใจ, EL_KMITL ถูกใจ, แค่ใจละเมอ ถูกใจ, 3N ถูกใจ, ผมมาตามหาผู้หญิงคนหนึ่ง ถูกใจ, เฉลียวศักดิ์ ถูกใจ, เด็กส่งแก๊ส ถูกใจรวมถึงอีก 4 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 10
ของเราหมั้นไว้ก่อน เงิน 4 แสน ทอง 8 บาท ... แฟนเงินเดือน 15,000 ค่ะ ไม่มีเงินเพิ่มพิเศษใดๆ แต่ช่วยกันเก็บทั้งเราและแฟนค่ะ เปิดบัญชีเดียวกัน ฝากทุกเดือนๆ
ปล. เก็บกันเอง ทั้งเงิน และทองค่ะ ไม่ได้ไปกู้ยืมใครมาให้มีหน้ามีตา ... เงินเดือนไม่มาก เลยได้เท่านี้ค่ะ แต่คุยกันแล้วว่าหมั้นเท่านี้ วันแต่งสินสอดอีกเท่าตัว ... แค่คิดก็เหนื่อยแล้วว แต่สู้ตายค่ะ ช่วยๆ กันเก็บ เพราะต่อไปก็จะสร้างครอบครัวด้วยกันแล้ว ^^
via Pantip Talk
ปล. เก็บกันเอง ทั้งเงิน และทองค่ะ ไม่ได้ไปกู้ยืมใครมาให้มีหน้ามีตา ... เงินเดือนไม่มาก เลยได้เท่านี้ค่ะ แต่คุยกันแล้วว่าหมั้นเท่านี้ วันแต่งสินสอดอีกเท่าตัว ... แค่คิดก็เหนื่อยแล้วว แต่สู้ตายค่ะ ช่วยๆ กันเก็บ เพราะต่อไปก็จะสร้างครอบครัวด้วยกันแล้ว ^^
via Pantip Talk
pondsomby ถูกใจ, EL_KMITL ถูกใจ, LittleRapunzel ซึ้ง, siansian ถูกใจ, periodic ซึ้ง, Gonzii_7 ซึ้ง, soneJESS ถูกใจ, SniperEak ถูกใจ, เนโกะซัง ถูกใจ, เค้าเรียกหนูว่าแม่หมอ ถูกใจรวมถึงอีก 7 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ขอถามหน่อยครับกรณีจะเเต่งงานสาวๆที่บ้านเรียกค่าสินสอดเท่าไหร่ครับ